แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ RAW แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ RAW แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

Auto WB ผิดไหมหวังผลได้แค่ไหน

ขอพูดแบบรวมๆนะครับ สำหรับผมเองก็ไม่ได้มีความรู้มากมายอะไรบทความนี้ ได้อ่านจากผู้ที่ชำนวญการท่านหนึ่ง เห็นว่าเหมาะแก่การกระจายต่อไป เลยเอามาฝากกันนะครับ


Auto White Balance

.
เป็น การปรับเลือกแบบอัตโนมัติโดยกล้องจะมีระบบวิเคราะห์จากโทนสีโดยรวมของภาพ เพื่อทำการตั้งค่าแสงให้อัตโนมัติเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ระบบนี้จะใช้งานง่ายไม่ต้องเสียเวลาในการเลือกปรับเปลี่ยนบ่อยๆ แต่เนื่องจากการวิเคราะห์ค่าแสงเป็นสิ่งที่มีการเตรียมข้อมูลไว้ล่วงหน้าตาม เกณฑ์กว้างๆ ดังนั้นหากภาพที่เราต้องการบันทึกมีโทนสีโดยรวมอมไปทางใดทางหนึ่งเช่นภาพของ ป่าไม้ ทุ่งหญ้า สระว่ายน้ำ หรือแม้กระทั่งพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก ก็อาจทำให้การวิเคราะห์ผิดเพี้ยนไปได้ การตั้งค่า White Balance แบบอัตโนมัติจะให้ผลค่อนข้างดีหากเป็นการถ่ายกลางแจ้ง หรือในร่ม แต่จะไม่ค่อยดีนักหากเป็นการถ่ายภายใต้แสงไฟนีออนหรือไฟหลอดไส้ (สำหรับกล้องบางรุ่น)
.

Daylight, Sunny หรือภาพพระอาทิตย์

.
เป็น การปรับสมดุลย์สีของแสงสำหรับการถ่ายภาพกลางแจ้ง หรือในเวลาที่มีแดดจ้า สภาพแสงจะใกล้เคียงกับสีขาวมากที่สุด โดยที่อุณหภูมิสีของแสงในการตั้งค่าล่วงหน้าของกล้องจะอยู่ที่ประมาณ 5000 - 6000 องศาเคลวิน การเลือกในลักษณะนี้จะใกล้เคียงกับภาพที่ได้เมื่อบันทึกด้วยฟิล์ม
.

Shade, Cloudy หรือภาพก้อนเมฆ

.
เป็น การปรับสมดุลย์สีของแสงสำหรับการถ่ายภาพกลางแจ้งแต่สภาพท้องฟ้าค่อนข้าง ครึ้ม ไม่มีแดดหรือมีเมฆมาก เพื่อลดโทนสีน้ำเงินออกจากภาพไปบ้าง โดยทั่วไปจะทำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ค่อยเห็นผลแตกต่างจากการเลือกปรับแบบ daylight หรือ auto เท่าไรนัก สำหรับกล้องคอมแพคส่วนใหญ่แล้วการถ่ายภาพในร่ม shade หรือ เมฆมาก cloudy จะ
อยู่ ด้วยกัน แต่สำหรับกล้องระดับสูงหน่อย อาจมีแยกให้เลือก ซึ่งในกรณีนี้ค่าของ shade จะใช้ถ่ายภาพในกรณีที่มีความครึ้มโดยรวมมากกว่า (อุณหภูมิสีของแสงสูงกว่า cloudy) เมื่อเลือกที่ shade ค่าของสีน้ำเงินจะถูกตัดทอนให้ลดลงมากกว่า cloudy
Incandescent, Tungsten, หรือภาพไฟหลอดไส้
เป็น การปรับสมดุลย์สีของแสงสำหรับการถ่ายภาพภายใต้แหล่งกำเนิดแสงที่มีสีอมส้ม เหลืองมาก เพื่อลดโทนสีส้ม-เหลืองออกไป แต่หากใช้ผิดพลาดภาพจะออกมาอมน้ำเงินดูหลอกตาที่สุด การเลือกใช้จึงควรระวัง เพราะในบางกรณีที่สภาพแหล่งกำเนิดแสงไม่ได้เพี้ยนมากนัก การเลือกใช้ white balance ตัวอื่นอาจให้ค่าที่เหมาะสมกว่า
.

Fluorescent หรือภาพไฟนีออน

.
เป็น การปรับสมดุลย์สีของแสงสำหรับการถ่ายภาพภายใต้แสงไฟนีออน ซึ่งจะให้สีอมเขียว จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประเภทหลอดด้วย หลอด fluorescent ไม่มีอุณหภูมิสีที่แน่นอน ดังนั้นการตั้งค่าจึงออกจะเป็นกลางๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภทของหลอดไฟเองก็มีหลายแบบ ทั้ง Warm White, Daylight, Cool White ซึ่งบางครั้งการเลือกตั้งค่าก็ค่อนข้างสับสน ทางที่ดีควรดูก่อนว่าตัวไหนให้เฉดสีที่ใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด กล้องดิจิตอลบางรุ่นจะแยกประเภทหลอดไฟนีออนมาให้เลือกได้อีก จึงควรทำความเข้าใจก่อนว่าหลอดไหนสำหรับโทนสีอะไร เพื่อกันความผิดพลาด แต่ข้อดีของกล้องดิจิตอลคือการมองเห็นภาพทันทีดังนั้นหากตั้งค่าผิดคงไม่ยาก เกินไปที่จะแก้ไข หรือในกล้องบางรุ่นมีระบบถ่ายภาพ white balance คร่อมไว้ได้ก็ยิ่งมีประโยชน์
.

Custom White Balance

.
เป็น การปรับสมดุลย์สีของแสงตามสภาพแสงที่ถ่ายจริงขณะบันทึกภาพ ซึ่งผู้ใช้จะต้องกำหนดเองโดยมีความรู้เรื่องของอุณหภูมิสีของแสงมากพอควร หากทำได้ถูกต้องก็จะให้ผลค่อนข้างแม่นยำ แต่หากผิดแล้วสีอาจเพี้ยนไปได้มาก หลักสำคัญคือเวลาตั้งค่าต้องทำภายใต้แสงที่จะถ่ายจริงคือวัดแสงจากตรง ตำแหน่งที่จะถ่ายเป็นหลัก การตั้งค่าค่อนข้างจะเหมือนกันคือให้ถ่ายภาพกระดาษสีขาวโดยซูมให้เต็มเฟรม ภาพ ที่สำคัญคือตำแหน่งของกระดาษจะต้องอยู่ที่ตำแหน่งของการถ่ายภาพจริงๆเท่า นั้น ในขณะที่กล้องบางรุ่นจะมีการปรับค่า white balance เป็นองศาเคลวินมาให้ผู้ใช้เลือกเอง ซึ่งในส่วนนี้ผู้ใช้คงต้องแม่นกับอุณหภูมิสีของแสงพอสมควร หรืออาจใช้เป็นลูกเล่นในการแต่งสีภาพเหมือนกับการใช้ฟิลเตอร์เติมสีสันให้ กับภาพก็สามารถทำได้

วันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

LR4 ว่าด้วย Develop Panal ใหม่

ก่อนอื่นเลย เรามาพูดถึงข้อมูลทางเทคนิคก่อน ว่ามีอะไรที่เพิ่มมาบ้าง
1. Process system 2012 ใหม่หมดจด ประมวลผลได้ดีกว่าเดิม
2. Camera RAW ใหม่ล่าสุด 7.x (7.0 for LR4 and 7.1 for LR4.1)
3. ส่วนของการทำ Photobook ทำให้เราทำงานได้ง่ายดายกว่าที่เคยเป็นมา
4. Video ปาดตัดต่อ Video ได้ด้วย และสามารถใช้ Preset ได้ด้วยนะ มันเจ๋งมาก
5. อันนี้ไม่ใช่อะไร คือผมว่ามันอืดกว่าเดิม เวลา zoom 100% เหมือนประมวลผลไม่ทัน
6. ใช้พื้นที่มากกว่าที่เคยมา
7. อันนี้น่าจะเห็นได้ชัด คือ การแบ่งกลุ่มของ Preset ง่ายต่อการค้นหาสำหรับคนที่มี 600-700 Preset หาเจอได้สบาย ผมรับรอง
8. ความเร็วในการ Render or Export เร็วมากกว่า LR3 แน่นอนถึงแม้ว่าจะทำงานช้าเวลาแต่งภาพก็ตาม
9. ความเป็นมิตรกับผู้ใช้ และเชื่อมโยงโปรแกรงอื่นๆได้มากกว่าเดิม
ภาพประกอบ หน้าต่างโปรแกรม LR4.1


ในส่วนของ Develop ก็ได้มีการประปรุ่งใหม่หมดจด เรียกได้ว่ารีดพลังของไฟร์ได้เต็มความสามารถกว่าเดิม
แต่ผมมีข้อแม้นะครับว่า เราต้องเข้าใจการทำงานของ Curve ให้ดีนะครับ
สิ่งแรกเลย ที่เราจะได้เห้นใน LR4 ก็คือ Process System ที่ใช้ รูปแบบ 2012 ซึ่ง LR3 จะใช้ 2010
แล้วมันต่างกันอย่างไรละครับ นั้นซิ..
แล้ว เราจะปรับอย่างไรได้บ้างเดียวแสดงให้ชมในบทความหน้านะครับ

วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

Trip: จูลให้ Windows อ่าน RAW "ไม่ต้องง้อ"

หลายๆคนที่ทำงานด้านการถ่ายภายเป็นงานหลัก หรือไม่ก็ต้องการคุณภาพ ก็มักจะถ่ายภาพมาเป็น RAW บางคนอาจสงสัยว่า RAW คืออะไร มันเป็นการถ่ายภาพแล้วบันทึกโดยไม่ผ่านการ Process ให้ๆให้ไฟร์มีขนาดเล็กลง ดังนั้นจึงสามารถเก็บ Bit และค่าตางๆได้มากว่า JPG เป็นไหนๆ แต่มันก็จะทำให้ไฟร์นั้นมีขนาดใหญ่กว่า JPG และแน่นอน Windows ไม่สามารถอ่าน RAW ได้
****สำหรับ Windows XP\Vista\20003\7 32bit เท่านั้น

การนำไฟร์ RAW ไปใช่ก็ต้องน้ำมา Process เอง หลายๆคนอ่านถึงตรงนี้อาจถามว่า จะทำให้มันมากเรื่องทำไม ถ่ายเป็น JPG ก็ได้ไม่ต้องมานั่งทำให้ปวดหัว (แต่ถ้าทำงานจริงๆต้องการคุณภาพจริงๆ RAW เท่านั้น  อิอิ***) วันนี้ผมจะนำเสนอวิธีการที่แสนง่ายดาย และด้วยขนาดไฟร์ที่เล็กกว่าการนั่งลงโปรแกรมอย่าง Adobe หรือ ACD อีกทั้งยังทำให้การใช้งาน เรียกดูภาพมันทำได้เหมือนไม่ได้ทำอะไรกับตัว Windows เอง

ไม่ให้เสียเวลา เราไปชมกันเลยครับ

ก่อนอื่นเข้าไปโหลด ตาม Link นี้เลย Canon RAW Code
จะมีรายละเอียดรุ่นที่รองรับดังนี้

 1. Supported OSes - Windows 7 32-bit version (64-bit version is not supported.)
- Windows Vista (including SP1/SP2) 32-bit version (64-bit version is not supported.)
- Windows XP SP3 32-bit version
* To use the software with Windows XP SP3, application software that supports WIC (such as Microsoft Windows Live Photo Gallery) will be required.

2. Supported PCs
-PCs with one of the above OSes pre-installed
-CPU: Pentium 1.3 GHz or faster
-RAM: 512 MB or more (Windows XP), 1 GB or more (Windows Vista/Windows 7)
-Display Resolution: 1024 x 768 pixels, High Color [16 bits] or higher

3. Supported Models
EOS Kiss X5 / EOS REBEL T3i / EOS 600D, EOS Kiss X50 / EOS REBEL T3 / EOS 1100D, EOS 60D, EOS-1D Mark IV, EOS Kiss X4/ EOS REBEL T2i/ EOS 550D, EOS 7D, EOS Kiss X3/ EOS REBEL T1i/ EOS 500D, EOS 5D Mark II, EOS 50D, EOS Kiss F/ EOS DIGITAL REBEL XS/ EOS 1000D DIGITAL, EOS Kiss X2/ EOS DIGITAL REBEL XSi/ EOS 450D DIGITAL, EOS-1Ds Mark III, EOS-1Ds Mark II, EOS-1Ds, EOS-1D Mark III, EOS-1D Mark II N, EOS-1D Mark II, EOS-1D, EOS 5D, EOS 40D, EOS 30D, EOS 20Da, EOS 20D, EOS 10D, EOS D60, EOS D30, EOS Kiss Digital X/ EOS DIGITAL REVEL XTi/ EOS 400D DIGITAL, EOS Kiss Digital N/ EOS DIGITAL REBEL XT/ EOS 350D DIGITAL, EOS Kiss Digital/ EOS DIGITAL REBEL/ EOS 300 DIGITAL
PowerShot G12, PowerShot S95, PowerShot G11, PowerShot S90, PowerShot SX1 IS, PowerShot G10, PowerShot G9, PowerShot G6, PowerShot S70, PowerShot S60, PowerShot Pro1, PowerShot G5, PowerShot S50, PowerShot G3, PowerShot S45, PowerShot S40, PowerShot S30, PowerShot G2, PowerShot Pro90 IS, PowerShot G1

4.Setup
ขั้นตอนการติดตั้ง



รอแปบเดียว ก็จะเสร็จ

เสร็จแล้วกด Next ไปต่อได้เลย

ให้ Restart ก็เป็นอันใช้งานได้แล้วครับ ยอดไหมละ ^^
ขอบคุณ Canon ที่มี Code แบบนี้ให้ แม้ว่าจะไม่มีสำหรับ x64 ก็ตามเสียดาย ไว้โอกาศหน้า เราจะมาพยายามทำให้ x64 ใช้ Function นี้ได้**