วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2555

Guide: หลักการถ่ายภาพสัตว์ ง่ายๆ

หลายๆคนคงคงแอบชอบในการถ่าย portrait บุคคลไม่น้อย แต่บางคนอาจคิดว่า ถ่ายบุคคนนั้นยังไม่ท้าทายพอ สำหรับวันนี้จะนำเสนอหลักในการถ่าย ภาพสัตว์ง่ายๆ ตามที่ผมใช่ในการถ่าย ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรเลย


อุปกรณ์ที่ควรจะมี
แมวกำลังกินน้ำ ภาพนี้สือให้เห้นแมวได้อย่างชัดเจน
เพราะแมวเองเป็นสัวต์มีมีความระวังตัวและความเร็วสูง
- กล้องถ่ายภาพ แบบไหนก็ได้แต่มือถือคงยากนิดหน่อย
- หากเป้น SLR ขอเลนส์ยาวๆ เอาซัก 70mm ขึ้นไป
- ความอดทน(อันนี้ไม่ใช่ อุปกรณ์นะครับ)

หลักการถ่ายสัตว์ก็ไม่มีอะไรมากมาย
1. คิดไว้เสมอว่า ถ่ายให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด หลายคนอาจถามขึ้นมาว่าทำไงให้เป็นธรรมชาติ ส่วนผมผมแล้วหมายถึงว่า พยายามอย่าให้เห็นลูกกรงหรือ โซ้ที่ล้ามไว้เด็จขาด ถ้าเลือกไม่ได้จริงๆ อย่างถ่ายภาพสัตว์ในสวนสัตว์ก็ให้ใช่วิธีละลาย สิ่งเหล่านั้นทิ้งซะ(หลายๆคนคงรู้ว่าทำไงอยู่แล้วนะครับ)

2. ภาพนั้นต้องมีความหมาย จริงๆแล้วอันนี้ทุกๆภาพก็น่าจะมีความหมายในตัวของมันทั้งหมดละ โดยเฉพาะสิ่งมีชิวิต อย่างเช่นหากคุณถ่ายภาพควายนอนอยู่ในบวกโคลน มันก็ควรจะสื่อได้ชัดเจน ว่ามันกำลังทำสิ่งนั้น อย่างสงบหรือมีความสุขอะไรประมาณนี้, แล้วถ้าหากเป็นพวกสุนัขหรือแมวน้อยๆในบ้านละ ถ้ามันนอนจะให้ความหมายถึงฉันอยากพักผ่อน ง่วงแล้วนะอะไรทำนองนี้ครับ

3. พยายามอย่าให้มีสิ่งแปลกปลอมมากเกินไป บางครั้ง การถ่ายเราซุ่มถ่ายในโพลงหญ้า การมีฉากหน้าที่เบลอออกไปก็อาจเป็นสิ่งที่ดี แต่หากมีมากเกินไปก็คงไม่ดีแน่ๆ เพราะมันจะทำให้ถูกแย้งความสนใจไปจากตัวสัตว์ที่เป็นแบบนั้นเอง

4.ทิศทางของแสงและสีสันของภาพ มีส่วนสำคัญต่ออารมณ์ของภาพเองไม่น้อยเช่นกัน หากต้องการภาพที่เศร้าแล้วคงไม่แนะนำให้ใช่ภาพที่สีสันสดสวยหรอกจริงไหมละครับ บางครั้งเราต้องการสื่อถึงความอบอุ่นก็ควรจะใช้สีที่ร้อนอีกนิด(ปรับ K เอาครับ)

หลักของผมก็มีแค่นี้ละ พวกมืออาชีพอาจมีมากมายกว่านี้ ส่วนเรื่องแสงและการจัดองค์ประกอบไว้เจอกันใหม่ครั้งต่อไปแล้วกันครับ หากต้องการให้เราถ่ายได้ดั่งใจสั่งก็ต้องพยายามและฝึกบ่อยๆนะครับ

สำหรับวันนี้สวัสดีครับ


วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

Trip: จูลให้ Windows อ่าน RAW "ไม่ต้องง้อ"

หลายๆคนที่ทำงานด้านการถ่ายภายเป็นงานหลัก หรือไม่ก็ต้องการคุณภาพ ก็มักจะถ่ายภาพมาเป็น RAW บางคนอาจสงสัยว่า RAW คืออะไร มันเป็นการถ่ายภาพแล้วบันทึกโดยไม่ผ่านการ Process ให้ๆให้ไฟร์มีขนาดเล็กลง ดังนั้นจึงสามารถเก็บ Bit และค่าตางๆได้มากว่า JPG เป็นไหนๆ แต่มันก็จะทำให้ไฟร์นั้นมีขนาดใหญ่กว่า JPG และแน่นอน Windows ไม่สามารถอ่าน RAW ได้
****สำหรับ Windows XP\Vista\20003\7 32bit เท่านั้น

การนำไฟร์ RAW ไปใช่ก็ต้องน้ำมา Process เอง หลายๆคนอ่านถึงตรงนี้อาจถามว่า จะทำให้มันมากเรื่องทำไม ถ่ายเป็น JPG ก็ได้ไม่ต้องมานั่งทำให้ปวดหัว (แต่ถ้าทำงานจริงๆต้องการคุณภาพจริงๆ RAW เท่านั้น  อิอิ***) วันนี้ผมจะนำเสนอวิธีการที่แสนง่ายดาย และด้วยขนาดไฟร์ที่เล็กกว่าการนั่งลงโปรแกรมอย่าง Adobe หรือ ACD อีกทั้งยังทำให้การใช้งาน เรียกดูภาพมันทำได้เหมือนไม่ได้ทำอะไรกับตัว Windows เอง

ไม่ให้เสียเวลา เราไปชมกันเลยครับ

ก่อนอื่นเข้าไปโหลด ตาม Link นี้เลย Canon RAW Code
จะมีรายละเอียดรุ่นที่รองรับดังนี้

 1. Supported OSes - Windows 7 32-bit version (64-bit version is not supported.)
- Windows Vista (including SP1/SP2) 32-bit version (64-bit version is not supported.)
- Windows XP SP3 32-bit version
* To use the software with Windows XP SP3, application software that supports WIC (such as Microsoft Windows Live Photo Gallery) will be required.

2. Supported PCs
-PCs with one of the above OSes pre-installed
-CPU: Pentium 1.3 GHz or faster
-RAM: 512 MB or more (Windows XP), 1 GB or more (Windows Vista/Windows 7)
-Display Resolution: 1024 x 768 pixels, High Color [16 bits] or higher

3. Supported Models
EOS Kiss X5 / EOS REBEL T3i / EOS 600D, EOS Kiss X50 / EOS REBEL T3 / EOS 1100D, EOS 60D, EOS-1D Mark IV, EOS Kiss X4/ EOS REBEL T2i/ EOS 550D, EOS 7D, EOS Kiss X3/ EOS REBEL T1i/ EOS 500D, EOS 5D Mark II, EOS 50D, EOS Kiss F/ EOS DIGITAL REBEL XS/ EOS 1000D DIGITAL, EOS Kiss X2/ EOS DIGITAL REBEL XSi/ EOS 450D DIGITAL, EOS-1Ds Mark III, EOS-1Ds Mark II, EOS-1Ds, EOS-1D Mark III, EOS-1D Mark II N, EOS-1D Mark II, EOS-1D, EOS 5D, EOS 40D, EOS 30D, EOS 20Da, EOS 20D, EOS 10D, EOS D60, EOS D30, EOS Kiss Digital X/ EOS DIGITAL REVEL XTi/ EOS 400D DIGITAL, EOS Kiss Digital N/ EOS DIGITAL REBEL XT/ EOS 350D DIGITAL, EOS Kiss Digital/ EOS DIGITAL REBEL/ EOS 300 DIGITAL
PowerShot G12, PowerShot S95, PowerShot G11, PowerShot S90, PowerShot SX1 IS, PowerShot G10, PowerShot G9, PowerShot G6, PowerShot S70, PowerShot S60, PowerShot Pro1, PowerShot G5, PowerShot S50, PowerShot G3, PowerShot S45, PowerShot S40, PowerShot S30, PowerShot G2, PowerShot Pro90 IS, PowerShot G1

4.Setup
ขั้นตอนการติดตั้ง



รอแปบเดียว ก็จะเสร็จ

เสร็จแล้วกด Next ไปต่อได้เลย

ให้ Restart ก็เป็นอันใช้งานได้แล้วครับ ยอดไหมละ ^^
ขอบคุณ Canon ที่มี Code แบบนี้ให้ แม้ว่าจะไม่มีสำหรับ x64 ก็ตามเสียดาย ไว้โอกาศหน้า เราจะมาพยายามทำให้ x64 ใช้ Function นี้ได้**

วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

ดูแลกล้อง เบื้องต้น ตอนชื้น**

หลายคนอาจสงสัยว่าจะรู้ได้ยังไงว่าชื้นไป แห้งไป ถ้าไม่มี ไฮโดรมิเตอร์(เครื่องวัดความชื้นนั้นละ)

วันนี้ผมมีภาพตัวอย่างที่แสดงว่า กล้องท่านแอบชื้นแล้วนะ ถ้าไม่รีบทำให้หายชื้นอาจเป็นราได้(ขนาดนั้นเลยหรอ ท่าน *0*)
ตอบ: ครบถ้ากล้องท่านชื้นมากๆนานๆ เก็บใส่กระเป๋าแล้วบ้านท่าน เป็นบ้านทางใต้ของประเทศอากาศร้อนชื้นนิ แย่แน่ๆเลย ดังนั้นเราไปดูกันดีกว่าว่า ความชื้นมันมาได้อย่างไร

ที่มาของความชื้น
1. เอากล้องตากในห้องแอร์บ่อยๆ
2. เอากล้องไว้ในรถยนต์ ขับไปนานๆปิดแอร์เย็นๆ แล้วปิดแอร์จอดตากแดด หรือรถร้อน
3. เอากล้องไปถ่ายกลางสายฝน แบบนี้คงจะเปียกด้วย
4. เอากล้องไปถ่ายในช่วงทะเลหมอกตอนเช้าๆ อากาศชื้นๆเต็มไปด้วยหมอกที่สวยงาม
5. กล้องกันชื้นกลายเป็นกล้องสะสมความชื้น อ่านแล้ว งง ซินะ คือว่าซิลิก้าเจลมันหมดอายุนะซิคับ(วิธีดูเดียวเจอในภาคหน้า)
6. สุดท้ายเลยไปถ่ายน้ำตก ถ่ายน้ำตกให้สวยก็ต้องลงทุน แต่อาจได้ละอองน้ำมานิด
นี้เป็นภาพตัวอย่างของ viewfilder ที่มีแววว่าแอบชื้นแล้วนะ
ถ้าเห้นแบบนี้ ก็ให้ทำตามขั้นตอนที่ผมบอกเลย สู้ๆ
*** แต่ก็ไม่เสมอไปครับผม***

อาการที่บอกเหตุว่า ชื้นแล้ว
1. filder ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร
2. ยางจับแล้วเหนียวติดมือมากเกินไป แน่นอนถ้าแห้งไปก็จะจับไม่ติดมือเลย
3. ภาพที่ได้อาจดูฟุ้งๆ ถ้าฟุ้งมากๆ ก็ร้าแล้วคับ เข้าร้าน เข้าศูนย์กันไปเถอะแบบนั้น
4. ถ้าชื้นมากๆ อาจช๊อตแล้วเปิดไม่ติด ขนาดนั้นหรอ ครับ ยืนยันว่าจริง**





วิธีจัดการกับความชื้น
เจอปัญหาไปแล้ว ผมจะขอเสนอวิธีแก้ปัญหากล้องชื้น ตั้งแต่ถูกที่สุดไปจนถึงแพงที่สุด
1. เอากระเป๋ากล้องไปตากแดดบ้าง เพราะกระเป๋านั้นสะสมทุกอย่างที่เราเดินทางไปต่อสู้มา 555+
2. เอาซิลิก้าเจลไปตากแดดบ้าง เหมือนกัน ถ้าซิลิก้าเลจ ดูดความชื้นได้ในอุหภูมิปกติ(ไม่ร้อนเกินไป) ดังนั้นหากเราจะเอาซิลิก้าเจลกลับมาใช้ใหม่ก็ต้อง ตากแดด ให้มันร้อนและมันจะได้ระบาย
3. เอาซิลิก้าเจลเข้าไมโครเวฟ (ไม่ควรใช้ภาชนะเดียวกับอาหารนะครับ)
***2 และ 3 หลังจากทำเสร็จแล้วควรรอให้มันเย็นนิดหน่อยก่อน ไม่งั้นก็จะอยู่ในภาวะคลายความชื้นทำให้เกิดความชื้นได้ในภาชนะ
4. เก็บกล้องในกล่องถนอมอาหาร โดยใส่ซิลิก้าเจลด้วย
5. เก็บกล้องไว้ในตู้กันความชื้นแบบเฉพาะทาง (แพงกว่าแบบที่ 4 พอควร แต่ไม่ต้องคิดไรมากมาย**)
6. ถ้าทั้งหมดนี้แล้วดูไม่มีอาการที่จะดีขึ้นเลย แนะนำส่งร้าน
7. ถ้าร้านไม่รับก็เข้าศูนย์ไป รับรองหาย แต่จะเสียเงินเท่าไรนั้น ไม่บอก 5555

****ปัญหาของ viewfilder ละเอียดอ่อนมากๆ ปัจจัยที่ทำให้เกิดแสงพุ้งๆรอบๆจุด focus นั้น มีได้หลายสาเหตุ โปรดตรวจสอบให้ดีก่อนนะครับ

สำหรับวันนี้สวัสดีครับ

แคนนอนชวนส่งคลิปวีดีโอ ชิงกล้อง EOS1100D

แคนนอนขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยในช่วงภาวะน้ำท่วม
ด้วยกิจกรรมดีๆเพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับคนที่เรารัก กับกิจกรรมการประกวดคลิปวิดีโอในคอนเซ็ปต์
“Remember me!”
ความยาวไม่เกิน 3 นาที
สร้างสรรค์ไอเดียพร้อมโชว์วิธีการสร้างความประทับใจใ ห้ติดอยู่ในความทรงจำของคนที่เรารัก
ลุ้นรับกล้อง EOS 1100D และของรางวัลมากมายจากแคนนอน
มูลค่ากว่า 60,000 บาท หมดเขตส่งคลิป 30 ธันวาคมนี้เท่านั้น!!!
ขยายเวลาถึง 31 มกราคมนี้แล้วนะครับ รีบๆกันหน่อย ^^

กติกาง่ายๆเพียงส่งคลิปวิดีโอความยาวไม่เกิน 3
นาทีโชว์ไอเดียพร้อมวิธีการให้เค้าหรือเธอคนนั้น

ได้ยิ้ม..หัวเราะ..ซาบซึ้ง..อิ่มเอม..มีความสุข..ประ ทับใจ..จนติดอยู่ในความทรงจำไปอีกนานแสนนาน....

ไม่ว่าเค้าคนนั้นจะเป็น พ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อน หรือคู่รัก

เราไม่ปิดกั้นรูปแบบและจินตนาการ ขอแค่สร้างความประทับใจในสไตล์ที่เป็นคุณ

ไอเดียใครเด็ด ไอเดียใครโดน รับรางวัลไปเลย!!
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://goto.canon.co.th/theremember/

ตามกระแสนิดCanon T4i or EOS 650D in 2012

Canon T4i or EOS 650D จะมาพร้อมกับ จอ Touchscreen และ wifi ปาด... จะได้จริงๆหรอ*

หลังจากที่ตามข่าวสารเรื่อง EOS ตัวใหม่อย่าง EOS650D มาเกือบ 2 เดือน วันนี้ผมได้อ่าน
http://canontweets.com/2011/10/canon-t4i-or-eos-650d-with-touchscreen-and-wifi-ready/
แสดงตัวอย่างของ จอ ในรุ่น 650D ดูเยอะดีเนอะ 555+
เห้ยมันจะได้แบบนี้จริงหรือเปล่านะ งานนี้หลายๆคนคงตั้งตาคอยว่า เดือน กพ. 2012 นี้จะได้อะไรที่ไม่ค่าดว่ามันจะมีใน SLR ของ Canon หรือไหม
จากที่ผมอ่านในหลายๆแหล่งข่าวขอสรุปง่ายๆว่าจะมีอะไรใหม่มั่งแล้วกัน

สิ่งที่จะมาใหม่ในรุ่น 650D
- เราจะได้จอทัส จิ้มๆได้ อิอิ และมันเป็นแบบ Capasitive ด้วย(ไม่ต้องใช้ปากกากด หรือออกแรงกด)
- ความละเอียดที่มากกว่าเดิม บางข่าวบอกว่า 24Mp บางข่าวว่า 18Mp
- APS-C sensor, DGIC5 ซึ่งมันก็ต้องเป็นแบบนั้นละ เพราะตอนนี้ มีหลายรุ่นแล้วที่ใช่ DIGIC5
- มี Proximity ซึ่ง 600D 60D และจอหมุดได้รุ่นแรกๆไม่มี ปาดผมอยากได้***
- และสุดท้าย มี GPS/Wifi ปาด รุ่นต่อไปต่อเน็ตได้เล่นเน็ตได้เลยไหม 555

ผมว่าหน้าตามันก็ดูคล้ายๆกับ 600D นะ แต่มี Proximity ด้วย
จริงๆแล้วมีอีกหลายรุ่นที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2012 เช่น 7D markII บางที่ก็บอกว่า 8D 70D บางที่ก็บอกว่าอาจเป็น 60D MarkII งั้นผมขอบอกว่า 65D แล้วกันฮาดี

สำหรับวันนี้สวัสดีครับ*-*

ก้าวแรกใครว่าไม่สำคัญ

ผมเองที่คนธรรมดาจนๆบ้านๆ หาเช้ากินค่ำ เลนส์และ อุปกรณ์พิเศษบางอย่างในบล๊อกอาจได้มาจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ผมพอจะหยิบยืมได้ ก่อนอื่นเลยผมคิดว่าคนที่อ่าน blog นี้อาจมีไม่น้อยที่ยังไม่มีกล้องเป็นของตัวเอง งั้นผมขอเริ่มที่ ประเภทของกล้องก่อนแล้วกัน (D)SLR SLT(ไม่มีกระจกสะท้อน) และ Compact Camera ซึ่งมันก็แบ่งได้อีกมากมายในตัวของมันเอง เริ่มจากที่ราคาถูกที่สุด(จะเรียกแบบนี้ก็ไม่ผิด แต่ก็ไม่ถูกเท่าไรเหมือนกัน)  

ประเภทของกล้องถ่ายรูป

COMPACT CAMMERA
PowerShot เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ทำตลาดให้กับ Canon มายาวนาน
ด้วยความสามารถและ กำลัง Zoom ที่มาก ถึง 14 เท่า 5.0-70mm
- ราคากล้อง compact ในปัจจุบัน(2012) ผมคิดว่ามีให้เลือกมามากมายหลายระดับ ตั้งแต่ 2000 ไปจนถึง 20,000 บาท. เลยทีเดียว ความสามารถของกล้อง ที่เราเรียนกันว่า คอมแพคนั้น ก็มีมายมายแล้วแต่ผู้ผลิตเองบรรจงสร้างสรรค์ บางรุ่นสามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหว ความละเอียดสูงได้ ถึง FullHD กันเลยทีเดียว ซึ่งผมเองแอบคิดอยู่ช่วงหนึ่งว่าจะเอามาถ่ายหนังจะไปรอดไหม(หนังสำหรับส่งงาน ที่ ม และ ส่งประกวดแบบหวังนิดๆหน่อยๆ) พูดมาซะนาน ยังไม่เข้าเรื่องเลย กล้องประเภทนี้นั้นสามารถถ่ายให้สวยได้อย่างง่ายดาย และการใช้งานที่เป้นมิตรกว่ากล้องแพงๆอย่าง SLR หรืแ SLT ก็ตาม แล้วก็จะมีคำถามตามมาว่า ในเมื่อไม่ต้องเก่งก็ถ่ายได้แล้วทำไม มันถูกกว่า  ...
Sony Cyber-shot เป็นที่นิยมมากในหลายๆกลุ่ม ผมเห็นสาวๆชอบใช่กันซะเยอะ
G12 กล้องยอดนิยมของนักเล่นกล้อง ที่บางคนอาจมี SLR อยู่แล้ว
G12 มันพิเศษที่สามารถถ่าย RAW ได้ และ ISO ที่สูงกว่า compact ปกติ

เหตุผลที่ทำให้ Compact ถูกกว่า SLR เพราะว่า...
 - ขนาดของตัวเซ้นเซอร์เอง ที่เล็กกว่า SLR ในค่ายเดียวกัน (ขนาดเซ็นเซอร์มีผลกับหลายๆอย่างเดียวจะมาบอกอีกที -.-)
 - คุณภาพของวัสดุ และขีดจำกัดในการสร้างสรรค์
 - ไม่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้(คงพูดไม่เต็มปากแล้วซินะ เพราะตอนนี้มีแล้ว)
 - ถ่าย DOF ไม่ค่อยได้ดีเท่าไร ด้วย ขนาดของตัวเซ้นเซอร์เอง และปัจจัยอื่นๆไม่ว่าจะเป็นกำลัง zoom หรื่ออะไรก็ตาม

ข้อดีของ COMPACT
 - ขอดีของ กล้องประเภทนี้คือ ถ่ายได้แบบไม่ต้องกังวล เพราะมันถูกกว่า SLR นิหว่า
 - ดูแลรักษา ง่ายกว่า เพราะทุกๆอย่างรวมเป็นชิ้นเดียวกัน บางรุ่นอาจกันน้ำกันฝน กันกระแทกอีก**
 - ถ่ายมาโครได้ง่ายดาย เดียวจะเขียนให้อีกที ว่าทำไม
 - บางรุ่นถ่ายได้สนุก zoom ได้กระจาย ในราคาที่คุ้ม 28-300 ในราคา 12xxx รวมกล้องแล้วคุ้มไหมละ
 - ถ่ายง่ายกว่า SLR
 - เหมาะกับครอบครัวไปเที่ยววันหยุด สบายๆพกใส่กระเป๋าเสื้อได้ ^^

ข้อเสียของ COMPACT  บ้างT^T
 - ถ่าย DOF ไม่ค่อยดีเท่าไร ถ้าเป็นรุ่นแพงๆอาจมี f-number ให้มาเยอะ อาจพอถ่ายได้บ้าง
 - ความร้อนจากการทำงาน มากกว่าเมื่อเอาไปถ่าย video แข่งกับ SLR (ก็แน่นอนซิเล็กกว่าแถมยังบางซะขนาดนั้น)
 - คุณภาพไฟร์ภาพที่ได้อาจไม่เท่า SLR แต่ก็อัดรูปไวดูเล่นน หรือจะเอาไว้ใช้งานแบบกึ่งทางการก็ไม่เสียหาย
 - ความเร็วในการตอบสนองอาจช้ากว่า ในรุ่นที่ราคาถูกมากๆ


วันนี้ผมขอฝากบทความแรกไว้แค่นี้ก่อนแล้วกัน ขอบคุณที่อ่านจนจบ หรือเปล่า ^-^

วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2555

เหตุผลที่สร้าง Blog นี้ขึ้นมา

จริงๆก็อย่างที่ทราบกันดี ว่าเว็บสอนถ่ายรูปมีเยอะมากมายแล้วในทุกวันนี้ แต่ผมแค่อยากแบ่งปันความรู้ที่ได้ จากการถ่ายภาพและหลักการ process ง่ายๆผ่าน โปรแกรมยอดนิยม อย่าง Photoshop และ Photoshop lightroom ซึ่งหลายๆคนอาจบอกว่า ไม่ดี หรอกที่จะหวังเอาตอน procsess ผมเองเป็นคนหนึ่งที่หวังให้จบหลังกล่องในช่วงแรกๆที่ผมเล่นกล้อง แต่ เพื่อที่เราจะได้สร้างสรรค์งานได้มากกว่าเดิม ผมจึงหัดที่จะ process แบบต่างๆ เริ่มจากเลียนแบบง่านคนอื่นที่ผมชอบก่อน แล้วก็พยามที่จะสร้างเอกลักษณ์ให้ตัวเองต่อไป ซึ่งตอนนี้ผมเองคิดว่าผมยังทำไม่ได้ในจุดนั้น แต่ต่อไปไม่แน่ ถ้าผมไม่หยุดเดินซะก่อน